วันนี่้มีคนมาถามว่า ตาเหล่ กับ ตาเข และ ตาส่อน เป็นอย่างไรแตกต่างกันอย่างไร ผมก็เลยลองกลับมาเปิดหนังสือเก่าสะสม
ดูซิว่า มีรายละเอียดอธิบายไว้บ้างไหม สุดท้ายก็ค้นจนเจอ ลองมาดูกันนะครับว่าจะพอเป็นประโยชน์บ้างไหม
สาเหตุตาเหล่ และ การรักษาอาการตาเหล่ ตาเป็นอวัยวะอย่างหนึ่งที่มีความสำคัญยิ่งยวด ในการดำรงชีวิต โดยเฉพาะในการประกอบธุรกิจการงานประจำวัน หรือประจำคืน ถ้าตาบอดสนิททั้งสองข้างเสียแล้ว จะก่อให้เกิดภาวะลำบากและไม่สะดวกเอนกประการ เพราะมองอะไรที่จำเป็นต้องมอง หรือ อยากจะเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่อยากให้มองเห็น ต้องตกอยู่ในความมืดตลอดกลางวันและกลางคืน นอกจากเอาเครื่องมือ หรือ ความรู้สึกมาใช้แทน และชีวิตขาดความสวยสดงดงามรวมทั้งแสงสีอย่างสิ้นเชิง นอกจากจะเป็นอวัยวะที่ใช้มองแล้ว ตาเป็นองค์ประกอบความงดงามอย่างหนึ่งของสตรีเพศ ให้เห็นว่า ตาคม ตาหวาน และเป็นสิ่ง ที่บอกถึงนิสัยใจคอคน ความโง่ ความฉลาดของคนได้อีกด้วย ไม่เพียงแต่เท่านั้น ตายังบอกถึงอารมณ์ขณะนั้นของผู้เป็นเจ้าของ เช่นตาเขียวปั๊ด แสดงว่าโกรธจัด ตาขวางส่อว่าอารมณ์ไม่ดี หรือโรคประสาทกำเริบ ตาเหม่อลอย แสดงว่ากำลังคิดหนัก และ ตาละห้อย แสดงว่ากำลังถังแตกแสดงว่าเป็นโรคทรัพย์จางอย่างแรง หรือไม่ก็มีอะไรที่กำลังลำบากอยากให้ช่วย แล้วยังใช้เป็น เครื่องทำสัญญาณได้อีกด้วย เช่น หลิ่วตา ให้ได้เสียอีกแน่ะ แต่ถ้าตาบอดเสียแล้ว อะไรๆ ที่ว่ามาตั้ง 3 กระบุงโกย นั้นก็เป็นอันหมดสิ้นโดยเด็ดขาดไม่มีข้อแม้ บางคนแม้ตาจะยังไม่บอด แต่ดวงตาหรือลูกในตา ส่วนที่เป็นตาดำ ซึ่งตามปกติจะอยู่ในทิศทางเดียวกันทั้งสองข้างเสมอ ไม่ว่าจะเหลือบแลไปทางไหน แม้แต่ในเวลาค้อนทำตาประหลับปะเหลือก็เช่นกัน ได้เกิดการขัดแย้งไม่ยอมปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตาซ้ายมองไป ทางขวา แต่ตาขาวกลับมองไปทางซ้าย ทำให้ตาดำทั้งสองข้างหันมารวมกันทางหัวตาข้างดั้งจมูก ในบางคนตาข้างหนึ่งมองตรง แต่อีกข้างหนึ่งกลับมองไปทางซ้ายหรือทางขวา รวนกันไป รวนกันมาอยู่นั่นแล้ว อย่างนี้เขาเรียกว่า " ตาเหล่ " ครับ แต่บางคนก็เรียกว่า "ตาเข" ถ้าเป็นเล็กน้อยพอผิดสังเกตก็เรียกว่า "ตาส่อน" จะเป็นตาเหล่ ตาเข ตาส่อน อย่างไร ก็แล้วแต่ เกิดขึ้นได้ 2 ทาง คือเป็นมาแต่กำเนิดทางหนึ่ง เป็นในภายหลังเพราะผลสืบเนืองมาจากโรคภัยไข้เจ็บบางอย่าง เช่น โรคคอตีบอีกทางหนึ่ง ที่ว่ามานี้เป็นตาเหล่แบบถาวร ตาเหล่ชั่วคราวก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน เช่นในบางคนเวลาซัดน้ำพรรค์อย่างว่าเข้าไปเกินขนาด และตาเหล่เทียมก็เกิดขึ้นได้อีก เช่นในตัวตลกบางคนที่ฝึกบังคับกล้ามเนื้อยึดลูกนัยน์ตา ให้ตาดำหันมาทางหัวตาทั้งสองข้าง พร้อมกัน แต่ก็ได้เพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น คนตาเหล่นั้นย่อมดีกว่าคนตาบอด อย่างแน่นอน เพราะยังมองเห็นอยู่ แม้จะเห็นผิดปกติไปบ้างก็ยังดีกว่ามองไม่เห็นเสียเลย แม้กระนั้นมันก็เป็นเครื่องบั่นทอนบุคคลิกภาพผู้เป็นเจ้าของได้อย่างเอกอุทีเดียว โดยเฉพาะสตรีสาวถึงจะมีรูปโฉมพรรณงดงาม เพียงใดก็ตาม ถ้าเป็นคนตาเหล่ ก็เป็นอันถูกปิดประตูตายสำหรับการประกวดนางงามใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นนางงามแชมพูสระผม หรือนางงามผงซักฟอก เพราะจะ ตกสำรวจ ตั้งแต่พาตัวเข้าไปสมัครเสียแล้วโดยไม่มีโอกาสได้ไปตกรอบแรกเป็นเด็ดขาด สาเหตุที่เกิดอาการตาเหล่ ก็เนื่องมาจากกล้ามเนื้อที่เหนี่ยวยึดลูกนัยน์ตาข้างที่เหล่ทำงานบกพร่อง ไม่ยืดหรือหดสอดคล้องกับตาอีกข้าง หรือมัดใดมัดหนึ่งอาจจะตึงหรือหย่อนเกินไป การแก้ไขอาการตาเหล่ ตาเข หรือตาส่อนนี้ทำได้เพียงประการเดียวเท่านั้นคือ ไปให้แพทย์ ผู้ชำนาญการผ่าตัดตาโดยเฉพาะ ทำการผ่าตัดจัดกล้ามเนื้อที่ผิดปกติเสียใหม่ หรือเหนี่ยวรั้งกล้ามเนื้อมัดที่ยาวหรือหย่อนตามหลักวิชา ซึ่งเป็นงานที่ละเอียดอ่อนต้องใช้ความปราณีตมาก ตาดำจึงจะมาอยู่ในทิศทางเดียวกับอีกข้างหนึ่งได้สนิท ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ขอขอบคุณนิตยสารมหัศจรรย์ สารวิทยา สำหรับครอบครัว โรจน์ รุ่งวิทย์ จัดทำโดยทีมงาน แปลก ฉบับที่ 12 พ.ศ.2519 นำเสนอโดย ทีมงานตำนานดอทเน็ต |