กำเนิดว่านยาและสมุนไพร
เป็นพืชที่เกิดขึ้นโดยการวิวัฒนาการตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทั้งหลายซึ้งมีอยู่ในโลกนี้ ฉะนั้นจึงไม่สามารถสืบสาวราวเรื่องได้ว่า ว่านชนิดใดเกิดตั้งแต่เมื่อใด ซึ้งได้เป็นมรดกตกทอดในตำราสมุดข่อยกันต่อๆมาตั้งหลายชั่วอายุคนแล้วนั้น ปรากฏดังนี้
พระตำรับว่าน
สิทธิการิยะ ยังมีพระฤาษี 4 องค์ในผืนแผ่นดินนี้ มีอิทธิฤทธิ์ยิ่งกว่าบรรดาโยคีและฤาษีทั้งปวงมีนามว่า กะวัตฤาษี กะวัตพันฤาษี สัพรัตถนาถฤาษี จังตังกะปิละฤาษีอีกองค์หนึ่ง พระฤาษี 2 องค์ ใน 4 องค์นี้ ได้กำหนดให้ธาตุทั้ง 4 คือ ดิน,น้ำ,ลม,ไฟ ตั้งอยู่เป็นอธิบดีแก่บรรดาสรรพสิ่งทั้งปวงส่วนท่านฤาษีองค์ที่ 4 คือ ท่านจังตังกะปิละนั้นได้ตั้งบรรดากบิลว่านต่างๆ ขึ้นไว้สำหรับท้าวพระยาและสมณชีพราหมณ์ทั้งหลาย ตลอดจนได้รู้จักสรรพคุณและโอสถสารประโยชน์จากว่านยาและสมุนไพรต่างๆเหล่านั้น ไปช่วยบำบัดโรคภัยไข้เจ็บ และช่วยปกป้องภยันตรายทุกข์ภัยนานาประการแกผู้เฒ่าผู้แก่และคนทั้งปวงทั่วกัน
ตามที่กล่าวนี้แสดงว่า ได้เคยมีการรวบรวมบรรดาว่านต่างๆ สำหรับสั่งสอนประชาชนต่อๆมาให้รู้จักถึงชนิดว่าน ลักษณะและสรรพคุณของว่านยาและสมุนไพรมาแล้วในอดีต ทั้งแสดงว่าการกระทำอย่างนี้ได้กระทำในสมัยเมื่อพระพุทธศาสนาได้เกิดมีแล้วอย่างแน่นอน
โดยปกติพระฤาษีหรือท่านผู้ทรงวิทยาคุณขลังต่างๆ ย่อมพำนักอาศัยตามป่าสูงหรือในถ้ำตามภูเขา ฉะนั้นบรรดาชนชาวป่าชาวดอยที่มีถิ่นอยู่ในบริเวณใกล้เคียง จึงพลิยได้รับความรู้ในเรื่องว่านยาและสมุนไพรจากท่านเหล่านั้น และคงรักษาความรู้ไว้ด้วยการบอกเล่าสืบทอดต่อมาจนทุกวันนี้
ว่านที่ 1 ว่านกระแจะจันทน์
ลักษณะ ทั่วไปของว่านนี้ อยู่ในสกุลเปราะ หัวเหมือนเปราะแต่กลมโตกว่า สีของผิวหัวมีเขียวปนน้ำตาล ใบดังเปราะที่ใช้กินกับ ปลาร้า แต่สีของหน้าใบเขียวจัดเป็นมัน ใบกลมและโตกว่าเปราะ สีของหลังใบขาวมีสีแดงปนม่วงตามของใบและปลายใบหยิกดมมีกลิ่นหอมเย็นทั้งใบทั้งหัวมากดอกสีขาวตรงกลางปะแต้มสีแดงปนม่วง ลักษณะเดียวกันกับว่านเสน่ห์จันทน์หอมจะผิดกันตรงหน้าใบเขียวอ่อน ว่านกระแจะจันทน์เขียวจัดและมัน
ประโยชน์ เป็นที่นิยม 1 ในกระบวนหารหุงน้ำมันว่านหอม ใช้เป็นเสน่ห์มหานิยมดีนัก ถ้าปลูกไว้ในบ้านหรือร้านค้าทำให้มหานิยมผู้คนเข้าร้านมิได้ขาด ช่วยให้เกิดลาภเนืองๆ หัวของว่านกระแจะจันทน์เดิมที่มาจากหงสาวดี จึงมีชื่ออีกว่า ว่านกระแจะจันทน์หงสา ก่อนจะใช้หัวแช่น้ำมันจันทน์หรือหุงน้ำมัน ให้เสกด้วยคาถา มะอะอุ พุทธสังมิ จิเจรุนิ นะชาลีติ ปิยังมะมะ มหาลาโภ โหตุ ภะวันตุเม 3 จบเสมอ แม้แต่ใช้หัวพกพาติดตัวก็ได้วิเศษยิ่งนัก ได้ผลมามากแล้ว
การปลูก ใช้ดินสะอาดปนทรายหยาบที่สะอาดดี กระถางปลูกควรเป็นปากบาน ใส่ดินที่เตรียมไว้ให้เต็มเอาหัวว่านวางตรงกลาง กลบดินพอให้หัวโผล่นิดหน่อย ก่อนรดน้ำเสกด้วยคาถา นะชาลีติ 3 จบเสมอ รดแต่พอเปียกหัวตอนแรก เมื่อใบโตคลุมกระถางต้องใช้ขันรดตรงกลาง น้ำที่รดจะได้ถึงดินได้ ควรปลูกในวันจันทร์หรือวันศุกร์ข้างขึ้นดี
----------------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณข้อมูล ดีๆ จาก หนังสือตำราว่าน 108 โดย แสวง เพชรศิริ
เรียบเรียงโดย ทีมงาน ตำนานดอทเน็ต ครับ |