เรื่องจริงอิงนิทาน ตอน ผีพระ ตอนที่ 4
แล้วก็พอถึงฤดูน้ำในพรรษาก็จัดมีเทศน์กลางปี เพราะที่นั้นถ้ามีเทศน์หน้าแล้ง คนไปลำบาก ถ้าหน้าน้ำใช้เรือเข้าไปสะดวก เพราะทางรถก็ลำบาก ทางเรือก็ลำบาก ฤดูแล้งมันยาก ก็เลยมีหน้าน้ำ ไปวันแรกก็นิมนต์พระครูโวไป พระมหาจำลอง พระสมุห์พื้น แล้วมีอาตมา ตำแหน่งมันว่าง อาตมาเทศน์ด้วย อ้อ แล้วก็มหาจำรัส มหาจำรัสอีกองค์ วัดอนงคารามไปเทศน์ เทศน์วันแรกได้เงินประมาณ เดี๋ยวก่อน นึกไม่ออกเสียแล้ว มันหลายปีประมาณ ๕ หมื่นหรือ ๗ หมื่นนี่จำไม่ได้ คนที่เขามาติดกัณฑ์เทศน์น่ำหลายหมื่นเห็นจะ ๕ หมื่น วันแรกดีทุกอย่างไม่มีอะไรขัดข้อง พอรุ่งขึ้นเช้าวันที่สอง จะเทศน์อีกวันหนึ่ง เพราะเทศน์ ๒ วันซ้อน วันที่ ๒ นี่มีเรื่องหนัก ฝนตกหนักตั้งแต่เช้าตกไม่ส่างตกเม็ดใหญ่ ๆ คนจะเอาข้าวมาถวายพระก็เปียกปอนกันไปหมด ทีนี้คนที่มาฟังเทศน์เขาจะมาได้ยังไง ความจริงก่อนจะเทศน์ก็มีการบวงสรวงกันแล้ว เรื่องบวงสรวงบอกเจ้าที่เจ้าทาง เทวดาประจำถิ่น หรือใครต่อใคร นี่ก็บอกันตามธรรมดาตามแบบฉบับของหลวงพ่อปาน ไม่น่าจะมีเหตุขัดข้อง
ทำที่ไหนไม่เห็นมีอะไรขัดข้อง มาที่นี่แปลกอาตมานั่งรับแขกคนก็ทนมา ผ่าฝนมาโดยใช้เรือประทุนหรือเรือที่มีหลังคา แต่ก็มาด้วยความลำบาก พอถึงเวลาเที่ยงวัน เที่ยงพอดี ฝนยังไม่ซา ตกหนักอยู่อย่างนั้น พระเทศน์บ่ายโมง นี่เหลือเวลาอีกนิดเดียวจะเทศน์คนก็ยังมาไม่ได้ ก็ไม่ทราบว่าอารมณ์มันเกิดขึ้นมายังไง ก็แหงนหน้าขึ้นไปบนฟ้า พูดเฉย ๆ เสียงดัง ๆ พูดแบบดุว่า ไอ้นี่นี่มันยังไงกันหว่านี่หว่า นี่เขาจะทำบุญทำทาน นี่เขาจะสร้างโบสถ์นี่ มานั่งแกล้งกันยังไงเว้ย เลิกเสียทีสิหว่า เท่านั้นแหละ พอพูดจบฝนขาดเม็ดทันที ชาวบ้านที่นั่งอยู่ก็เห็นเป็นอัศจรรย์นึกว่าอาตมาเป็นพระร่วงเสียละมั้ง พูดให้หยุดก็พูดได้ แต่ความจริงน่ะเปล่า ความจริงเปล่า ที่พูดไปน่ะพูดโดยไม่ได้ตั้งใจ หรืออาจจะเป็นเพราะอารมณ์กลุ้มก็ไม่ทราบ ฝนหยุดทันที พอฝนหยุดแล้วก็ปรากฏว่าอีกสักครู่หนึ่งเรือมากันหนัก อัศจรรย์ว่าเรือมาถึงทันพระขึ้นเทศน์พอดี คนมาก วันนี้ได้เงินอีกประมาณ ๓ หมื่นบาท ก็ไม่น้อยเหมือนกันเรียกว่าได้มากเป็นพิเศษ ซึ่งไม่มีวัดไหนทำได้ นี่อัศจรรย์
เมื่อเลิกเทศน์เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ยังอยุ่ที่วัดอีก ๒ วัน พอตกกลางคืน ตอนเย็นนั่นแหละเขาก็มากัน ชาวบ้านไปเอาปืนผาหน้าไม้กันมา เพราะเกรงคนจะมาจี้ มันอยู่กลางทุ่ง อาตมาก็มอบเงินให้คณะกรรมการรักษา เพราะว่า ตัวคนเดียวไม่สามรถจะปกครองเงินได้ เงินทั้งหมดพวกเราร่วมกันรับผิดชอบ ฉันไม่มีอาวุธ ถึงมีอาวุธก็ไม่ไหว สู้เขาไม่ได้หรอก ถ้าใครจะมาปล้น ชาวบ้านนั้นทุกคนที่มีอาวุธก็มานอนกันหลายสิบคน เอาปืนมานอนกันเป้นแถว ๆ อยู่กันเป็นจุด ๆ เพื่อป้องกันเงินของสงฆ์ก็คุยกันไปกว่าจะนับเงินเสร็จกว่าจะปรึกษาหารือกันก็ถึงเวลาตี ๑ หนึ่งนาฬิกานะ เขาถือว่าเป็นวันใหม่ แต่ทางคณะสงฆ์ถือว่ายังเป็นวันเก่า อีตอนนี้ต่างคนต่างก็เข้านอน อาตมาน่ะเอารูปหล่อหลวงพ่อปานไปด้วย ก็กางมุ้งอยู่ที่หลังรูปหลวงพ่อปาน พอเข้ามุ้งชาวบ้านเขาก็นอนล้อมรอบ มีปืน แล้วก็แบ่งกันเป็นจุด ๆ ไปอยู่ไกล ๆ กันบ้าง นั่งในเรือนอนในเรือบ้าง ดักทางเข้าทุก ๆ ทางของวัดเพื่อความปลอดภัย
อ้างอิงข้อมูลจากหนังสือ เรื่องจริงอิงนิทาน เล่ม ๑ โดย หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ครับ |